ฤดูหนาวมาเยือนอีกครั้ง ช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวที่หลายคนรอคอย อากาศเย็นสบายกำลังดี ท้องฟ้าสดใส เหมาะแก่การออกไปสัมผัสธรรมชาติและถ่ายภาพสวยๆ โดยเฉพาะตามจุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงามตระการตา วันนี้ TAMDUANG เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับlสถานที่เที่ยวหน้าหนาวสุดประทับใจที่ไม่ควรพลาด
แนะนำ 9 ที่เที่ยวหน้าหนาวสุดฮิต 2025 ห้ามพลาด! เที่ยวได้ทั้งปี
การท่องเที่ยวในหน้าหนาวของประเทศไทย ถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างรอคอย เพราะนอกจากอากาศที่เย็นสบายแล้ว ยังมีกิจกรรมและจุดถ่ายภาพสวยๆ มากมาย วันนี้เราได้รวบรวม 9 ที่เที่ยวหน้าหนาว 2025 ยอดนิยมที่เหมาะกับการไปเที่ยวในหน้าหนาวโดยเฉพาะ มาฝากกันค่ะ
ภูชี้ฟ้า เชียงราย
ภูชี้ฟ้าเป็นยอดดอยที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเทิง ที่ความสูง 1,628 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดเด่นของที่นี่คือลักษณะของยอดดอยที่มีลักษณะเป็นหน้าผาหินยื่นชี้ไปบนฟ้า คล้ายนิ้วชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ในยามเช้าตรู่ นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นที่โผล่พ้นขอบฟ้า พร้อมทะเลหมอกสีขาวที่ลอยอยู่เบื้องล่าง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็น ” แม่น้ำโขง ” และประเทศลาวได้อย่างชัดเจน
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1020 มุ่งหน้าอำเภอเทิง จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่านบ้านร่มโพธิ์ทอง และบ้านร่มฟ้าทอง ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- โดยรถประจำทาง : นั่งรถตู้จากสถานีขนส่งเชียงรายไปยังอำเภอเทิง จากนั้นต่อรถสองแถวหรือเหมารถขึ้นภูชี้ฟ้า
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ควรขึ้นไปถึงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น (ประมาณ 05.30 น.) เพื่อชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่มเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยความสูงกว่า 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ไฮไลท์ของที่นี่คือ สกายวอล์คม่อนแจ่ม ทางเดินไม้ไผ่ที่ทอดยาวชมวิวแบบ 360 องศา สวนดอกไม้เมืองหนาวที่สวยงามหมุนเวียนตามฤดูกาล กิจกรรม Camping ในกระท่อมชาวเขาสไตล์ Hmong Hut และร้านอาหารวิวสวยมากมาย โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงามและอากาศที่หนาวเย็น
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนสายเชียงใหม่-พร้าว (1096) ผ่านอำเภอแม่ริม เลี้ยวเข้าโครงการหลวงหนองหอย ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- โดยรถมอเตอร์ไซค์เช่า : สามารถเช่าจากในตัวเมืองเชียงใหม่ ราคาประมาณ 250-300 บาทต่อวัน
- โดยรถตู้/รถแดง : มีบริการรถรับจ้างจากตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถติดต่อได้ที่เกสต์เฮาส์หรือโรงแรมที่พัก
- แนะนำให้ไปช่วงเช้าตรู่ (05.00-06.00 น.) เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เชียงใหม่
ดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น พระมหาธาตุนภเมทนีดลและนภพลภูมิสิริ สวนกุหลาบเมืองหนาวที่ใหญ่ที่สุดในไทย เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ และน้ำตกแม่ยะ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งทั่วทั้งดอย
นางพญาเสือโคร่ง : (ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus cerasoides) เป็นพืชดอกในสกุล Prunus ออกดอกช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ พบทั่วไปบนภูเขาตั้งแต่ความสูง 1,200-2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-จอมทอง) จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 มุ่งหน้าสู่อุทยานฯ ระยะทางประมาณ 108 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- โดยรถประจำทาง
- นั่งรถประจำทางสายเชียงใหม่-จอมทอง จากสถานีขนส่งเชียงใหม่
- จากจอมทองต่อรถสองแถวขึ้นดอย หรือเหมารถตู้
- ทัวร์แบบเช้าไป-เย็นกลับ: มีบริการจากตัวเมืองเชียงใหม่ ราคาประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อคน
- ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน: ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท (คนไทย 50/20 บาท)
- แนะนำให้ไปพักค้างคืน 1-2 คืน เพื่อให้ได้เที่ยวชมครบทุกจุด
เขาค้อ เพชรบูรณ์
เขาค้อเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่บนความสูง 1,174 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดดเด่นด้วยทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม มีแลนด์มาร์คสำคัญอย่าง ทุ่งกังหันลม จุดชมวิวระเบียงกระจก Pino Latte ไร่สตรอเบอร์รี่ และสวนดอกไม้เมืองหนาวที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีที่พักสไตล์ยุโรปและร้านกาแฟวิวสวยมากมาย โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม อากาศจะหนาวเย็นและมีทะเลหมอกให้ชมเกือบทุกเช้า
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านเพชรบูรณ์ มุ่งหน้าสู่เขาค้อ
- ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
- โดยรถโดยสารประจำทาง
- นั่งรถทัวร์จากหมอชิต 2 ไปเพชรบูรณ์
- ต่อรถตู้หรือรถสองแถวไปเขาค้อ
- แนะนำให้พักอย่างน้อย 2-3 คืน เพื่อให้ได้ชมทะเลหมอกและเที่ยวครบทุกจุด
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ตื่นเช้าประมาณ 05.00 น. เพื่อชมทะเลหมอก
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา
เขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,168 ตารางกิโลเมตร มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ไฮไลท์สำคัญได้แก่ น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก จุดชมวิวผาเดียวดาย เส้นทางศึกษาธรรมชาติกม.33 และเส้นทางเดินป่าระดับต่างๆ ในช่วงหน้าหนาวอากาศจะเย็นสบาย เหมาะแก่การตั้งแคมป์ เดินป่า และดูนก โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่จะได้เห็นทะเลหมอกปกคลุมทั่วผืนป่า
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 2 (มอเตอร์เวย์)
- เลี้ยวเข้าถนนธนะรัชต์ที่ปากช่อง
- ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลา 2.5-3 ชั่วโมง
- โดยรถโดยสารประจำทาง
- นั่งรถทัวร์จากหมอชิต 2 ไปปากช่อง
- ต่อรถสองแถวหรือแท็กซี่เข้าอุทยานฯ
- ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท (คนไทย 40/20 บาท)
- ควรจองที่พักและลานกางเต็นท์ล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงวันหยุด
ภูทับเบิก เพชรบูรณ์
ภูทับเบิกเป็นจุดสูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ระดับความสูง 1,768 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีชื่อเสียงจากไร่กะหล่ำปลีใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่เรียงรายเป็นขั้นบันไดตามไหล่เขา จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมชาวเขาเผ่าม้งที่น่าสนใจ โฮมสเตย์ของชาวบ้าน และร้านอาหารท้องถิ่นรสชาติดี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 5-20 องศาเซลเซียส
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 2196
- ผ่านอำเภอหล่มเก่า มุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก
- ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
- โดยรถโดยสารประจำทาง
- นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปเพชรบูรณ์
- ต่อรถตู้ไปหล่มเก่า
- เหมารถขึ้นภูทับเบิก
- ควรพักค้างคืนอย่างน้อย 1 คืน เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก
- แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้พร้อม เพราะอากาศหนาวจัดในช่วงกลางคืน
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เลย
ภูกระดึงเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลักษณะเด่นคือเป็นภูเขาที่มียอดราบคล้ายโต๊ะ บนยอดเขามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น ผานกแอ่น ผาหมากดูก น้ำตกถ้ำสอเหนือ-ใต้ น้ำตกวังกวาง ลานหินแตก และทุ่งหญ้าเนินหว้า การเดินขึ้นภูกระดึงใช้ระยะเวลาประมาณ 4-8 ชั่วโมง ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร เป็นความท้าทายที่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและอุปกรณ์
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์
- เข้าสู่จังหวัดเลย ตามป้ายบอกทางไปอุทยานฯ
- ระยะทางประมาณ 520 กิโลเมตร ใช้เวลา 7-8 ชั่วโมง
- โดยรถโดยสารประจำทาง
- นั่งรถทัวร์จากหมอชิต 2 ไปภูกระดึง (มีรถตรง)
- หรือนั่งรถไปเลย แล้วต่อรถสองแถวไปอุทยานฯ
- ค่าธรรมเนียม : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท (คนไทย 40/20 บาท)
- บริการลูกหาบ : คิดค่าบริการตามน้ำหนักสัมภาระ
- ควรวางแผนพักค้างคืน 2-3 คืน เพื่อเที่ยวชมให้ครบทุกจุด
ดอยผ้าห่มปก เชียงใหม่
ดอยผ้าห่มปกตั้งอยู่ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ระดับความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีลานนา มีชื่อมาจากลักษณะของยอดดอยที่มีหมอกปกคลุมคล้ายผ้าห่ม ไฮไลท์สำคัญคือดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานสะพรั่งในช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม และสถานีเกษตรหลวงดอยผ้าห่มปก ที่มีแปลงดอกไม้เมืองหนาวและพืชผักเมืองหนาวให้ชม
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107
- มุ่งหน้าสู่อำเภอฝาง แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวง 1249
- ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง
- โดยรถประจำทาง
- นั่งรถตู้จากเชียงใหม่ไปฝาง
- เหมารถสองแถวหรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นดอย
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม
- ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน: มกราคม-กุมภาพันธ์
- ชมทะเลหมอก: ช่วงเช้าตรู่ 05.00-07.00 น.
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กำแพงเพชร
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์ มีความโดดเด่นด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตกสวยงาม และความหลากหลายทางชีวภาพ จุดเด่นสำคัญได้แก่ น้ำตกแม่กี น้ำตกคลองน้ำไหล ผาชูธง และเส้นทางเดินป่าระยะไกลแม่วงก์-คลองลาน ที่ได้รับความนิยมจากนักเดินป่า นอกจากนี้ยังมีจุดกางเต็นท์ริมลำธารที่สวยงาม เป็นที่เที่ยวหน้าหนาว คนไม่เยอะ เหมาะสำหรับการพักแรมท่ามกลางธรรมชาติ
วิธีการเดินทาง
- โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน)
- เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 1072 ที่อำเภอลาดยาว
- ระยะทางประมาณ 340 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง
- โดยรถโดยสารประจำทาง
- นั่งรถทัวร์จากหมอชิต 2 ไปกำแพงเพชร
- ต่อรถตู้หรือเหมารถไปอุทยานฯ
- ค่าธรรมเนียม : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท (คนไทย 20/10 บาท)
- สิ่งที่ต้องเตรียม
- เต็นท์และอุปกรณ์แคมปิ้ง
- ไฟฉายและอุปกรณ์กันหนาว
- อาหารและน้ำดื่ม
- ควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้าเพื่อจองที่พักและตรวจสอบสภาพอากาศ
ที่เที่ยวหน้าหนาว สวยทุกที่ เที่ยวได้ทั้งปี!
การท่องเที่ยวในหน้าหนาวของประเทศไทยมีเสน่ห์ และความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร แต่ละสถานที่มีจุดเด่นและความสวยงามที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเลหมอก ดอกไม้เมืองหนาว หรือกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ แม้จะเป็นช่วงหน้าหนาว แต่สถานที่เหล่านี้ก็สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพียงแต่การมาเที่ยวในหน้าหนาวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่พิเศษกว่า ทั้งอากาศเย็นสบาย และทัศนียภาพที่สวยงามเป็นพิเศษ